มาเรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิภาพของหูฟัง(ตอนที่2)
ในเรื่องนี้เราควรจะอธิบายง่ายๆนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ ซึ่งบางคนก็มีความรู้แบบผิดๆ ผมต้องบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับ หลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมบอกเลยว่าส่วนตัวผมก็ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่นัก ผมได้อ่านบทความในหน้าสือเล่มหนึ่ง ซึ่งบอกเลยว่าจำไม่ได้จริงๆว่า เล่มใด แต่ก็ต้องขอบคุณผู้เขียนที่อธิบายในบทความนะครับ
Input impedance (ohms)
เป็นค่าความต้านทานของไฟฟ้า เสียงที่ออกมามีค่าต่ำ แต่ยิ่งความต้านทานไฟฟ้ามาก ก็ยิ่งทำให้ใช้กำลังไฟขับผ่านสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งถ้าเครื่องที่เราใช้ไม่สามารถส่งกระแสไฟได้พอเพียงกับความต้องการของเรานั้น มันจะทำให้เสียงของหูฟังเพี้ยนอย่างมาก จนถึงกับหูฟังดับไปเลยก็มี ซึ่งผมก็เชื่อว่าหลายๆคนเคยเจอปัญหาเกี่ยวกับ การฟังเพลง แล้วหูฟังดับ นั้นแหล่ะ คือคุณใช้กระแสไฟเกินจนทำให้มันดับไปเลย ฮ๋าๆ ผมก็เคยเหมือนกัน ซึ่งปกติแล้วหูฟังจะมีกระแสความต้านทานอยู่ที่ 21-32 ohm นั้นเอง เราจะมายกตัวอย่างง่ายๆนั้นก็คือ ถ้าเรามีหูฟัง ขนาด 21 ohm แต่ดันเอาไปใส่ที่ 40 ohm ซึ่งถ้าเปิดดังๆแน่นอนว่า หูฟังของคุณจะดับในทันที หรือไม่ก็เสียงเพี้ยนแบบสุดๆนั้นเอง
จริงๆ เรื่องนี้ในหลักวิทยาศาสตร์มันมีมากมาย แต่ให้ผมอธิบายก็กลัวจะผิดเพี้ยนกันไปหมด ผมจึงขอย่อบทความนี้ล่ะกันนะครับ มันเป็นเรื่องที่ละเอียดมากๆ หรือถ้ามีความรู้อะไรเพิ่มเติมบอกผ่านใน comment ได้นะครับ ยังไงผมก็ขออภัยไว้ที่นี่ด้วยนะครับ
ยังมีตอนต่อไปนะครับ
เครดิตรูปภาพ : siamsport.co.th
ศูนย์รวมสินค้าเพื่อการฟังเพลง แห่งใหม่ของประเทศไทย Sounds wells เว็บไซด์ที่จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อ ลำโพงราคาถูก ลำโพงเสียงดี ลำโพงยอดนิยม และ หูฟังครอบหู หูฟังสวยๆ มาครอบครองได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เข้าไปชมคลังสินค้าของเราที่มีให้เลือกมากกว่า 1000 รายการ รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวัง |
Leave a Comment